TOYOTA TL INTERVIEW : สก็อตต์ คูเปอร์ - กุนซือผู้ทรนงแห่งอุบลยูเอ็มที
ถูกดูแคลนเรื่องฝีมือ เมื่อครั้งคุม 2 ยักษ์ใหญ่ไทย, ทำให้เขาตัดสินใจลงไปสู่ลีกล่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง คูเปอร์ใช้เวลา 3 ปี และวันนี้เขากลับมาแล้ว
อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมน้องใหม่ที่ทำผลงานดีสุดในประวัติศาสตร์ไทยลีก จากการเก็บชัยชนะ 3 เกมติดต่อกัน
ต่อเนื่องความร้อนแรงด้วยการยันเสมอกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด รองแชมป์เก่า ในนัดที่ 4 ท่ามกลางบรรยากาศแฟนบอลล้นสนาม ยูเอ็มที สเตเดี้ยม รังเหย้าแห่งความภาคภูมิใจของคนเมืองดอกบัว
สก็อตต์ โจเซป คูเปอร์ กุนซือหนุ่มวัย 47 ปี คือผู้อยู่เบื้องหลังประวัติศาสตร์เกือบทุกหน้าของสโมสร เขาสั่งสมประสบการณ์ลูกหนังจากดินแดนผู้ดี ทั้งทีมชาติอังกฤษชุด ยู-15, ดูแลอะคาเดมี่ของเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนข้ามน้ำข้ามทะเล มาทำหน้าที่เฮดโค้ชให้กับ 2 สโมสรยักษ์ใหญ่เมืองไทย อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด
แต่วันหนึ่ง เขาได้กลับตัดสินใจแบบบ้าระห่ำและเสี่ยงเอาชื่อเสียงมาทิ้ง เมื่อจรดปากกาเซ็นสัญญากับ สโมสร อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ทีมในลีกดิวิชั่น 2 (เดิม) โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่มีเหตุผลเลยที่โค้ชโปรไฟล์สูงเช่นเขาต้องลงมาทำทีมในลีกรากหญ้า ในวันที่ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ยังไม่มีฟุตบอลสเตเดี้ยมอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง, ไม่มีผู้เล่นชื่อดัง หรือสิ่งที่ค้ำประกันได้เลยว่า พวกเขาจะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในอนาคต
3 ปี แห่งการต่อสู้ คูเปอร์ใช้ระยะเวลาอันสั้น พิสูจน์ฝีไม้ลายมือการคุมทีม พาสโมสรเล็กๆจากลีกรากหญ้า เติบโต ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรที่น่าจับตามองบนเวที โตโยต้า ไทยลีก สร้างระบบรูปแบบเกมการเล่นที่ชัดเจนเป็นเอกลักษณ์, ปั้นนักเตะที่ไม่มีใครรู้จักและเคยถูกหลายทีมมองข้าม ให้กลายเป็นผู้เล่นที่ฝีเท้าเก่งกาจ มีจนมีชื่อติดทีมชาติไทย…
เขาสร้างสิ่งเหลือเชื่อเหล่านี้ได้อย่างไร โกล ประเทศไทย เปิดใจ สก็อตต์ คูเปอร์ กุนซือผู้ทรนงแห่งสโมสร อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด
สก็อตต์ เพียง 3 เกมแรกบนโตโยต้า ไทยลีก คุณก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นแล้ว
มีหลายคนบอกผมเหมือนกัน ก่อนเกมที่เราจะพบกับ สุพรรณบุรี ว่าถ้าเราสามารถเอาชนะได้ เราจะกลายเป็นน้องใหม่ทีมแรกที่คว้าชัยชนะได้ 3 เกมติดต่อกัน ผมเลยบอกว่าทีมว่า งั้นพวกเราต้องสร้างประวัติศาสตร์นี้ให้ได้
แต่การชนะ 3 เกมรวด มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะ 2 ใน 3 นัดคือเกมเยือน แต่สุดท้ายพวกเราก็ทำได้ และขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง
มีหลายคนบอกผมเหมือนกัน ก่อนเกมที่เราจะพบกับ สุพรรณบุรี ว่าถ้าเราสามารถเอาชนะได้ เราจะกลายเป็นน้องใหม่ทีมแรกที่คว้าชัยชนะได้ 3 เกมติดต่อกัน ผมเลยบอกว่าทีมว่า งั้นพวกเราต้องสร้างประวัติศาสตร์นี้ให้ได้
แต่การชนะ 3 เกมรวด มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะ 2 ใน 3 นัดคือเกมเยือน แต่สุดท้ายพวกเราก็ทำได้ และขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง
แล้วเกมที่ 4 คุณเกือบพาทีมเอาชนะ รองแชมป์เก่า
นั่นเป็นเรื่องสัญญาณที่ดีว่า ทีมและนักเตะของเรากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เกมกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด พวกเขาคือทีมใหญ่ เป็นรองแชมป์ไทยลีก เมื่อฤดูกาลก่อน ส่วนเราเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา 11 ผู้เล่นตัวจริงเกมนั้น มีเพียง สุรีย์ สุขะ คนเดียวที่เคยผ่านเกมระดับไทยลีกมาก่อน นอกนั้นอีก 10 คน ก่อนจะเริ่มซีซั่นนี้ พวกเขาต่างยังไม่เคยสัมผัสเกมไทยลีก แต่ทุกคนก็ทำผลงานออกมาได้ดี จากตรงนี้ ผมคิดว่าเรากำลังมาถูกทาง
คุณเคยเป็นกุนซือให้กับ 2 สโมสรยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทองฯ คุณได้ประสบการณ์อะไรบ้าง ที่นำมาปรับใช้กับสโมสรเล็กๆ ที่ไต่เต้ามาจากดิวิชั่น 2
ผมโชคดีมากที่ได้คุม 2 สโมสรที่ดีสุดของไทย อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งคู่เป็นสโมสรที่มีการคาดหวังสูง และมีแฟนบอลจำนวนมาก อย่างการคุมทีมบุรีรัมย์ฯ ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ได้เจอรู้จักฟุตบอลไทย ได้เจอการแข่งขันระดับสูง ตลอดจนประสบการณ์ในการคุมทีมลงเล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เช่นเดียวกับ เมืองทองฯ ผมได้ร่วมงานกับนักฟุตบอลแถวหน้าของประเทศ
เมื่อผมมองย้อนกลับมาที่สโมสรของเรา อุบล ยูเอ็มที เต็มไปด้วยผู้เล่นอายุน้อย และพวกแข้งหน้าใหม่ ผมมักตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า ผมจะสามารถพาพวกเขาไปถึงระดับเดียวกับนักเตะเมืองทองหรือบุรีรัมย์ฯ ได้หรือไม่ โชคดีที่ผมเคยมีประสบการณ์ตรงนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผม ในการพัฒนาผู้เล่นของทีมอุบลฯ ไม่น้อยเลย
ย้อนกลับไป ปี 2015 มีแต่คนสงสัยว่า คุณบ้าหรือเปล่า ที่เลือกรับงานคุมทีมดิวิชั่น 2 ทำไมคุณตัดสินใจอย่างนั้น
ก็เพราะผมบ้าไง ผมถึงเลือกรับงานนี้ ผมคงจะบ้าจริงๆอย่างที่เขาว่า แต่มันเป็นเพราะผมมั่นใจว่า ผมรู้จักและเข้าใจฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี
อย่างที่พวกคุณรู้ ผมผ่านการคุมสองทีมที่ดีสุดในประเทศมาแล้ว ตอนนั้นมีแต่คนบอกว่า “ทีมใหญ่อย่าง เมืองทองหรือบุรีรัมย์ เอาใครมาคุมก็ได้ เพราะมีนักเตะฝีเท้าดีมากมาย” ช่วงที่ผมคุมทีมบุรีรัมย์ เรากลายเป็นทีมไร้พ่าย และเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก แต่ตัวผมกลับไม่ค่อยได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
ความจริง ผมสามารถไปรับงานไหนในโลกก็ได้ ทั้งที่ สหรัฐอเมริกา, เอเชีย หรือกลับยุโรป แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาดูถูก ว่า ผมทำทีมใหญ่ได้ดีเพียง เพราะมีนักเตะที่เก่ง ดังนั้นผมจึงอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง ด้วยการลงไปในลีกล่างสุดของประเทศ เพื่อเฟ้นหานักเตะ และสร้างทีมขึ้นมา
วันนี้สิ่งที่ผมทำ มันได้พิสูจน์แล้วว่า ผมจริงจังและใส่ใจกับฟุตบอลไทยแค่ไหน ผมเชื่อว่าโค้ชทุกคนล้วนต้องการพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่ผมแตกต่างกับคนอื่นคือ “ความกล้า” ผมไม่รู้ว่าจะมีอดีตโค้ชที่เคยคุมทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์หรือเมืองทองฯ กล้าลงมาทำทีมในลีกล่างแบบผมอีกไหม หรืออยากลองดูก็ได้นะ ถ้าคิดว่ามันง่าย
ผมรู้ว่างานที่ผมทำไม่ได้ง่ายเลย และเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง แต่ถ้าคุณไม่เสี่ยงอะไรเลยในชีวิต คุณก็จะไม่ได้อะไรเลยในชีวิต
ช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณผ่านการคุมทีมมาทั้ง 3 ดิวิชั่น มันทำให้คุณมองเห็นอะไรบ้างเกี่ยวกับฟุตบอลไทย
ผมมองว่า ดิวิชั่น 2 ยากกว่า ดิวิชั่น 1 เพราะมีจำนวนทีมเยอะ โปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างถี่ จึงทำให้ฤดูกาลถูกยืดออกไป โดยเฉพาะรอบแชมเปียนส์ลีก นี่ยากสุดๆ เพราะทุกทีมอยากเลื่อนชั้นหมด อีกทั้งปัญหาเรื่องสนามแข่ง ที่ไม่เอื้อต่อแท็คติก และวิธีการเล่น มันเป็นเรื่องยากที่คุณจะ เลี้ยง, ส่ง หรือยิง ในสภาพสนามที่ไม่เอื้ออำนวย แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของเกม
ตอนเล่นดิวิชั่น 1 เรามีปัญหาเรื่องของนักเตะต่างชาติ เราพึ่งพานักเตะไทยเป็นหลัก และพวกเรามีระบบการจัดการที่ดี จึงทำให้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีกได้สำเร็จ
ส่วนไทยลีก เรารู้ว่าต้องพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งเรื่อง เทคนิค ความเร็ว และทุกๆด้าน พูดง่ายๆก็คือ เราต้องดีกว่าเดิม ดีกว่าที่เคยเป็น ผมพยายามปรับทีมเพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันบนลีกสูงสด โชคดีที่ผมเคยผ่านงานกับทีมในไทยลีกมาก่อน จึงรู้ว่าควรพาทีมเดินไปทางไหน และเราก็เริ่มต้นได้ดีครับ
ผู้เล่นในทีมคุณส่วนใหญ่เป็นพวกนักเตะโนเนม หรือไม่ก็เป็นนักเตะถูกมองข้ามจากทีมเก่า มันน่าทึ่งตรงที่ คุณสร้างผู้เล่นเหล่านี้ ขึ้นมาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพได้อย่างไร
ก่อนอื่นคุณต้องให้พวกเขาเล่นในตำแหน่งที่ถูกต้อง เหมาะสมกับความสามารถของแต่ละคน จากนั้นคุณต้องสอนและแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาให้กับพวกเขา
ผมใช้เวลาอยู่กับนักเตะค่อนข้างเยอะ ทั้งการพบเจอและพูดคุย เราต้องบอกให้ได้ว่าเขาเป็นนักเตะสไตล์ไหน ควรเล่นอย่างไร และจะพัฒนาต่อไปในทิศทางใด รวมถึงคุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลไทยด้วย
สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้พวกเขามีความเข้าใจในเกมฟุตบอล และพัฒนาความสามารถของพวกเขาให้ยิ่งๆขึ้นไป ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกทีม รู้ว่าควรใช้งานพวกเขาในตำแหน่งไหน อย่างที่บอก ผมเชื่อว่าผมเข้าใจและรู้จักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี
แถมคุณยังกล้าใช้งานพวกนักเตะอายุน้อย
ผมไม่กลัวเลยที่ต้องใช้งานนักเตะดาวรุ่ง ถ้าพวกเขาดีพอ ผมให้โอกาสอยู่แล้ว ในฐานะโค้ช คุณต้องมั่นใจในตัวพวกเขาก่อน แล้วเขาจึงมีความมั่นใจในการเล่น เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม นักเตะหนุ่มเหล่านี้จะตอบแทนด้วยผลงานที่ดีให้กับทีม บางคนมองว่ามันเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า แต่สำหรับผม ผมไม่คิดว่ามันเป็นการเสี่ยง เพราะผมฝึกฝนพวกเขามาเป็นอย่างดี และสามารถปั้นให้เด็กหนุ่มเหล่านี้ ขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้
คุณต้องศึกษาสไตล์การเล่นแต่ละคน แล้วหาตำแหน่งที่ใช่ให้กับเขาเล่น อย่างที่เราเห็นตอนนี้ จอนาตา แวร์ซูร่า, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ, สิทธิกร กล่ำใส, กฤษณ์พรหม บุญสาร หรือแม้แต่ สิโรจน์ ฉัตรทอง พวกเขาก็มาจากจุดนี้ และสามารถลงเล่นในเกมระดับสูงได้ ซึ่งผมอยากบอกว่าไม่ใช่แค่ 4-5 คนนี้ เรายังมีนักเตะอีกมากเลย ที่รอโอกาสแจ้งเกิดในฤดูกาลนี้
ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คุณปั้นนักเตะอย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ได้อย่างไร
ตอนแรกเราทำสัญญายืมตัว เขามาจาก บีซีซี เทโร แต่หลังจาก สิโรจน์ ซ้อมกับเราได้สองวัน ผมมองเห็นความสามารถและสปีดของเขา ผมมั่นใจเลยทันทีว่า ผมสามารถปั้นให้เขาเป็นนักเตะที่พิเศษได้ ผมจึงบอกกับท่านประธานเลยว่า เราต้องซื้อนักเตะคนนี้ไว้ให้ได้ ในตอนที่ยังไม่มีใครรู้จักเขา แล้วเสริมเทคนิคให้กับเขา
1 ปีต่อมา มีแต่คนบอกว่า “ฉันค้นพบสิโรจน์เป็นคนแรก ผมเคยเห็นเขามาแล้ว บลาๆ”... ก็อย่างที่พวกคุณเห็นแหละ ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขาแล้ว และเราทำให้จะเขาเก่งยิ่งขึ้นกว่านี้อีก
ปรัชญาการทำทีมฟุตบอลของคุณ
Modern Football ฟุตบอลสมัยใหม่ครับ เราเน้นการเพรสซิ่งเกม เคลื่อนที่ตลอด 1 หรือ 2 จังหวะ การให้อิสระนักเตะได้โชว์ความสามารถเฉพาะตัว และลูกตั้งเตะที่เป็นจุดเด่น อย่างที่หลายๆคนพูดถึงเราอยู่ตอนนี้
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คุณอยากลองขึ้นไปคุมทีมใหญ่กว่านี้หรือไม่
ผมไม่ปิดโอกาส ประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านของผม แฟนบอลชาวไทย รวมถึงสื่อมวลชลดีกับผมเสมอมา รวมถึงสองทีมเก่าอย่าง บุรีรัมย์ และเมืองทอง พวกเขาดีกับผมมากๆครับ ผมจึงรู้สึกถูกชะตากับเมืองไทย และฟุตบอลที่นี่ ดังนั้นถ้ามีอะไรที่ผมทำเพื่อสามารถช่วยฟุตบอลประเทศนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกับสโมสรหรือสมาคม ผมยินดีเสมอ
แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ คือพัฒนาผู้เล่นให้มีคุณภาพเพื่อประดับวงการ ผมพยายามสร้างนักเตะเลือดใหม่ขึ้นมาเสมอ ผมคิดว่า นี่คือการช่วยทีมชาติไทยอีกทางหนึ่ง มันเป็นแนวทางที่ผมทำมาตลอด ตั้งแต่คุมทีม บุรีรัมย์ฯ เมืองทองฯ และปัจจุบันกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ซึ่งผมพอใจและมีความสุขกับงานที่ผมทำอยู่ในตอนนี้กับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด
ส่วนอนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อาชีพโค้ช คุณต้องเปิดโอกาส และมองให้กว้าง แสวงหาความท้าทาย และสถานที่ที่เราสามารถสร้างความแตกต่างและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนอย่างที่ผมมาคุมอุบล เพราะเชื่อว่า ผมสามารถพาทีมจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาเล่นในไทยลีกได้ ผมมีความเชื่อนี้ ตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ ผมมั่นใจว่า จะทำให้ทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการของทีม แล้วผมก็ทำได้จริงๆ
เราเห็นคุณมาที่สนามบ่อยครั้ง ในเกมที่ทีมชาติไทยลงแข่ง
ผมเชียร์ทีมชาติไทยนะ ผมติดตามอยู่ตลอด อยากให้พวกเขาชนะ แล้วก็ชอบเวลาเห็นนักเตะทีมตัวเองลงเล่น (หัวเราะ)
มีหลายคนเข้าใจว่าคุณเป็นชาวอังกฤษ
ฟังผมนะ ผมคือชาวไอริช (ไอร์แลนด์) ไม่ใช่อังกฤษ ไม่ใช่อังกฤษ ไม่ใช่อังกฤษ ไม่ใช่อังกฤษ เคลียร์นะ
คุณคิดว่าว่า อุบล ยูเอ็มที มีโอกาสจะสร้างเซอร์ไพรส์แบบ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หรือไม่
ผมคิดอยู่แล้วว่าสักวันต้องมีคนถามคำถามนี้ เพราะสตอรี่มันค่อนข้างคล้ายๆกัน ฟังผมนะ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ แต่มันไม่ง่ายที่จะทำได้แบบเลสเตอร์ เมื่อปีที่ผ่านมา
ผมจะไม่กดดันนักเตะว่า เราต้องได้แชมป์ เราทุ่มเทและโฟกัสที่เกมนัดต่อไปมากกว่า สิ่งเดียวที่ผมอยากเห็นจากพวกเขาคือการเล่นให้เต็มที่ โชว์ศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุดในทุกๆเกม ทุกครั้งที่นักเตะลงสนาม ผมจะถามพวกเขาเสมอว่า “วันนี้คุณทำมันได้ดีที่สุดแล้วหรือยัง”
กลับกัน ในฐานะอดีตคนในของเลสเตอร์ คิดอย่างไรกับผลงานของทีมที่ตกลงไปในซีซั่นนี้
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผมไม่ได้ทำงานที่เลสเตอร์นานแล้ว ซีซั่นก่อน พวกเขาทำผลงานได้เหนือความคาดหมายมากๆ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ดี พวกเขามีสตาฟฟ์โค้ชและทีมงานที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะผู้อำนวยการสโมสร จอน รัดกิน เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก
มันไม่ยุติธรรมเลยที่ทุกคนคาดหวังกับพวกเขามากเกินไป มันก็ตอบยากนะว่า พวกเขาจะกลับมาได้ไหม เพราะทุกทีมในพรีเมียร์ลีกต่างเป็นทีมที่เก่งกาจทั้งนั้น แต่ถ้าถามผม ผมเชื่อว่าเลสเตอร์จะกลับมาได้
กังวลไหมว่า การออกสตาร์ทที่ดีจะเป็นแรงกดดัน และอาจถูกตั้งความหวังสูงขึ้น
แม้ว่าจะเราจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี แต่เรายังเป็นทีมน้องใหม่บนลีกสูงสุดอยู่ดี ผมหวังว่าแฟนๆจะเข้าใจเรื่องนี้ เราคาดหวังสูงได้ แต่ต้องอยู่กับความเป็นจริง ไม่เช่นนั้นความคาดหวังที่มากเกินไป จะกลายเป็นแรงกดดัน
เรามีซีซั่นที่ดี ในปีที่ผ่านมา เราชนะในหลายๆเกม ประสบความสำเร็จ และเลื่อนชั้นมาถึงจุดนี้ ผมเข้าใจที่แฟนบอลที่ตั้งความหวังกับเราไว้สูง มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าลืมว่า ไม่ได้มีแค่อุบลฯ ทีมเดียว ที่ต้องการความสำเร็จ ทุกทีมล้วนปรารถนาความสำเร็จเช่นกัน
ผมย้อนกลับไป 2 ปีที่แล้ว ตอนที่เรารั้งอันดับ 8 ของลีกดิวิชั่น 2 ถ้าตอนนั้นผมบอกกับแฟนบอลอุบลฯว่า อีก 2 ปี พวกเราจะได้ขึ้นมาเล่นไทยลีก คงต้องมามีคนสวนกลับมาว่า “ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่า” เรายอมรับว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นผลจากความทุ่มเทของทุกคน เราอยากเห็นแฟนๆสนับสนุนพวกเราต่อไป ไม่ว่าจะเป็นวันที่สมหวังหรือผิดหวัง พวกเราต้องการกำลังใจ ผมอยากให้เราทุกคนสนุกไปด้วยกัน ในทุกๆเกม
พวกคุณเปิดซีซั่นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เหลืออีกประมาณ 30 กว่าเกม อุบลฯ จะมีเซอร์ไพรส์ให้เราเห็นอีกไหม
ผมคิดว่ามีนะ ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วละว่าอุบลเป็นทีมม้ามืด พวกเราจริงจังกับเกมการแข่งขัน ดังนั้นเราอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้เกิดขึ้นอีกก็เป็นได้ แต่อย่างที่ผมบอก ผมจะไม่ตั้งเป้าหมายเพื่อกดดันนักเตะและทีม แต่เราจะโฟกัสไปที่ในทุกๆเกมถัดไป และทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด
ผมมองว่า ดิวิชั่น 2 ยากกว่า ดิวิชั่น 1 เพราะมีจำนวนทีมเยอะ โปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างถี่ จึงทำให้ฤดูกาลถูกยืดออกไป โดยเฉพาะรอบแชมเปียนส์ลีก นี่ยากสุดๆ เพราะทุกทีมอยากเลื่อนชั้นหมด อีกทั้งปัญหาเรื่องสนามแข่ง ที่ไม่เอื้อต่อแท็คติก และวิธีการเล่น มันเป็นเรื่องยากที่คุณจะ เลี้ยง, ส่ง หรือยิง ในสภาพสนามที่ไม่เอื้ออำนวย แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของเกม
ตอนเล่นดิวิชั่น 1 เรามีปัญหาเรื่องของนักเตะต่างชาติ เราพึ่งพานักเตะไทยเป็นหลัก และพวกเรามีระบบการจัดการที่ดี จึงทำให้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีกได้สำเร็จ
ส่วนไทยลีก เรารู้ว่าต้องพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งเรื่อง เทคนิค ความเร็ว และทุกๆด้าน พูดง่ายๆก็คือ เราต้องดีกว่าเดิม ดีกว่าที่เคยเป็น ผมพยายามปรับทีมเพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันบนลีกสูงสด โชคดีที่ผมเคยผ่านงานกับทีมในไทยลีกมาก่อน จึงรู้ว่าควรพาทีมเดินไปทางไหน และเราก็เริ่มต้นได้ดีครับ
ผู้เล่นในทีมคุณส่วนใหญ่เป็นพวกนักเตะโนเนม หรือไม่ก็เป็นนักเตะถูกมองข้ามจากทีมเก่า มันน่าทึ่งตรงที่ คุณสร้างผู้เล่นเหล่านี้ ขึ้นมาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพได้อย่างไร
ก่อนอื่นคุณต้องให้พวกเขาเล่นในตำแหน่งที่ถูกต้อง เหมาะสมกับความสามารถของแต่ละคน จากนั้นคุณต้องสอนและแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาให้กับพวกเขา
ผมใช้เวลาอยู่กับนักเตะค่อนข้างเยอะ ทั้งการพบเจอและพูดคุย เราต้องบอกให้ได้ว่าเขาเป็นนักเตะสไตล์ไหน ควรเล่นอย่างไร และจะพัฒนาต่อไปในทิศทางใด รวมถึงคุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลไทยด้วย
สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้พวกเขามีความเข้าใจในเกมฟุตบอล และพัฒนาความสามารถของพวกเขาให้ยิ่งๆขึ้นไป ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกทีม รู้ว่าควรใช้งานพวกเขาในตำแหน่งไหน อย่างที่บอก ผมเชื่อว่าผมเข้าใจและรู้จักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี
แถมคุณยังกล้าใช้งานพวกนักเตะอายุน้อย
ผมไม่กลัวเลยที่ต้องใช้งานนักเตะดาวรุ่ง ถ้าพวกเขาดีพอ ผมให้โอกาสอยู่แล้ว ในฐานะโค้ช คุณต้องมั่นใจในตัวพวกเขาก่อน แล้วเขาจึงมีความมั่นใจในการเล่น เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม นักเตะหนุ่มเหล่านี้จะตอบแทนด้วยผลงานที่ดีให้กับทีม บางคนมองว่ามันเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า แต่สำหรับผม ผมไม่คิดว่ามันเป็นการเสี่ยง เพราะผมฝึกฝนพวกเขามาเป็นอย่างดี และสามารถปั้นให้เด็กหนุ่มเหล่านี้ ขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้
คุณต้องศึกษาสไตล์การเล่นแต่ละคน แล้วหาตำแหน่งที่ใช่ให้กับเขาเล่น อย่างที่เราเห็นตอนนี้ จอนาตา แวร์ซูร่า, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ, สิทธิกร กล่ำใส, กฤษณ์พรหม บุญสาร หรือแม้แต่ สิโรจน์ ฉัตรทอง พวกเขาก็มาจากจุดนี้ และสามารถลงเล่นในเกมระดับสูงได้ ซึ่งผมอยากบอกว่าไม่ใช่แค่ 4-5 คนนี้ เรายังมีนักเตะอีกมากเลย ที่รอโอกาสแจ้งเกิดในฤดูกาลนี้
ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คุณปั้นนักเตะอย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ได้อย่างไร
ตอนแรกเราทำสัญญายืมตัว เขามาจาก บีซีซี เทโร แต่หลังจาก สิโรจน์ ซ้อมกับเราได้สองวัน ผมมองเห็นความสามารถและสปีดของเขา ผมมั่นใจเลยทันทีว่า ผมสามารถปั้นให้เขาเป็นนักเตะที่พิเศษได้ ผมจึงบอกกับท่านประธานเลยว่า เราต้องซื้อนักเตะคนนี้ไว้ให้ได้ ในตอนที่ยังไม่มีใครรู้จักเขา แล้วเสริมเทคนิคให้กับเขา
1 ปีต่อมา มีแต่คนบอกว่า “ฉันค้นพบสิโรจน์เป็นคนแรก ผมเคยเห็นเขามาแล้ว บลาๆ”... ก็อย่างที่พวกคุณเห็นแหละ ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขาแล้ว และเราทำให้จะเขาเก่งยิ่งขึ้นกว่านี้อีก
ปรัชญาการทำทีมฟุตบอลของคุณ
Modern Football ฟุตบอลสมัยใหม่ครับ เราเน้นการเพรสซิ่งเกม เคลื่อนที่ตลอด 1 หรือ 2 จังหวะ การให้อิสระนักเตะได้โชว์ความสามารถเฉพาะตัว และลูกตั้งเตะที่เป็นจุดเด่น อย่างที่หลายๆคนพูดถึงเราอยู่ตอนนี้
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คุณอยากลองขึ้นไปคุมทีมใหญ่กว่านี้หรือไม่
ผมไม่ปิดโอกาส ประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านของผม แฟนบอลชาวไทย รวมถึงสื่อมวลชลดีกับผมเสมอมา รวมถึงสองทีมเก่าอย่าง บุรีรัมย์ และเมืองทอง พวกเขาดีกับผมมากๆครับ ผมจึงรู้สึกถูกชะตากับเมืองไทย และฟุตบอลที่นี่ ดังนั้นถ้ามีอะไรที่ผมทำเพื่อสามารถช่วยฟุตบอลประเทศนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกับสโมสรหรือสมาคม ผมยินดีเสมอ
แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ คือพัฒนาผู้เล่นให้มีคุณภาพเพื่อประดับวงการ ผมพยายามสร้างนักเตะเลือดใหม่ขึ้นมาเสมอ ผมคิดว่า นี่คือการช่วยทีมชาติไทยอีกทางหนึ่ง มันเป็นแนวทางที่ผมทำมาตลอด ตั้งแต่คุมทีม บุรีรัมย์ฯ เมืองทองฯ และปัจจุบันกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ซึ่งผมพอใจและมีความสุขกับงานที่ผมทำอยู่ในตอนนี้กับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด
ส่วนอนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อาชีพโค้ช คุณต้องเปิดโอกาส และมองให้กว้าง แสวงหาความท้าทาย และสถานที่ที่เราสามารถสร้างความแตกต่างและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนอย่างที่ผมมาคุมอุบล เพราะเชื่อว่า ผมสามารถพาทีมจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาเล่นในไทยลีกได้ ผมมีความเชื่อนี้ ตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ ผมมั่นใจว่า จะทำให้ทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการของทีม แล้วผมก็ทำได้จริงๆ
เราเห็นคุณมาที่สนามบ่อยครั้ง ในเกมที่ทีมชาติไทยลงแข่ง
ผมเชียร์ทีมชาติไทยนะ ผมติดตามอยู่ตลอด อยากให้พวกเขาชนะ แล้วก็ชอบเวลาเห็นนักเตะทีมตัวเองลงเล่น (หัวเราะ)
มีหลายคนเข้าใจว่าคุณเป็นชาวอังกฤษ
ฟังผมนะ ผมคือชาวไอริช (ไอร์แลนด์) ไม่ใช่อังกฤษ ไม่ใช่อังกฤษ ไม่ใช่อังกฤษ ไม่ใช่อังกฤษ เคลียร์นะ
คุณคิดว่าว่า อุบล ยูเอ็มที มีโอกาสจะสร้างเซอร์ไพรส์แบบ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หรือไม่
ผมคิดอยู่แล้วว่าสักวันต้องมีคนถามคำถามนี้ เพราะสตอรี่มันค่อนข้างคล้ายๆกัน ฟังผมนะ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ แต่มันไม่ง่ายที่จะทำได้แบบเลสเตอร์ เมื่อปีที่ผ่านมา
ผมจะไม่กดดันนักเตะว่า เราต้องได้แชมป์ เราทุ่มเทและโฟกัสที่เกมนัดต่อไปมากกว่า สิ่งเดียวที่ผมอยากเห็นจากพวกเขาคือการเล่นให้เต็มที่ โชว์ศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุดในทุกๆเกม ทุกครั้งที่นักเตะลงสนาม ผมจะถามพวกเขาเสมอว่า “วันนี้คุณทำมันได้ดีที่สุดแล้วหรือยัง”
กลับกัน ในฐานะอดีตคนในของเลสเตอร์ คิดอย่างไรกับผลงานของทีมที่ตกลงไปในซีซั่นนี้
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผมไม่ได้ทำงานที่เลสเตอร์นานแล้ว ซีซั่นก่อน พวกเขาทำผลงานได้เหนือความคาดหมายมากๆ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ดี พวกเขามีสตาฟฟ์โค้ชและทีมงานที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะผู้อำนวยการสโมสร จอน รัดกิน เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก
มันไม่ยุติธรรมเลยที่ทุกคนคาดหวังกับพวกเขามากเกินไป มันก็ตอบยากนะว่า พวกเขาจะกลับมาได้ไหม เพราะทุกทีมในพรีเมียร์ลีกต่างเป็นทีมที่เก่งกาจทั้งนั้น แต่ถ้าถามผม ผมเชื่อว่าเลสเตอร์จะกลับมาได้
กังวลไหมว่า การออกสตาร์ทที่ดีจะเป็นแรงกดดัน และอาจถูกตั้งความหวังสูงขึ้น
แม้ว่าจะเราจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี แต่เรายังเป็นทีมน้องใหม่บนลีกสูงสุดอยู่ดี ผมหวังว่าแฟนๆจะเข้าใจเรื่องนี้ เราคาดหวังสูงได้ แต่ต้องอยู่กับความเป็นจริง ไม่เช่นนั้นความคาดหวังที่มากเกินไป จะกลายเป็นแรงกดดัน
เรามีซีซั่นที่ดี ในปีที่ผ่านมา เราชนะในหลายๆเกม ประสบความสำเร็จ และเลื่อนชั้นมาถึงจุดนี้ ผมเข้าใจที่แฟนบอลที่ตั้งความหวังกับเราไว้สูง มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าลืมว่า ไม่ได้มีแค่อุบลฯ ทีมเดียว ที่ต้องการความสำเร็จ ทุกทีมล้วนปรารถนาความสำเร็จเช่นกัน
ผมย้อนกลับไป 2 ปีที่แล้ว ตอนที่เรารั้งอันดับ 8 ของลีกดิวิชั่น 2 ถ้าตอนนั้นผมบอกกับแฟนบอลอุบลฯว่า อีก 2 ปี พวกเราจะได้ขึ้นมาเล่นไทยลีก คงต้องมามีคนสวนกลับมาว่า “ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่า” เรายอมรับว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นผลจากความทุ่มเทของทุกคน เราอยากเห็นแฟนๆสนับสนุนพวกเราต่อไป ไม่ว่าจะเป็นวันที่สมหวังหรือผิดหวัง พวกเราต้องการกำลังใจ ผมอยากให้เราทุกคนสนุกไปด้วยกัน ในทุกๆเกม
พวกคุณเปิดซีซั่นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เหลืออีกประมาณ 30 กว่าเกม อุบลฯ จะมีเซอร์ไพรส์ให้เราเห็นอีกไหม
ผมคิดว่ามีนะ ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วละว่าอุบลเป็นทีมม้ามืด พวกเราจริงจังกับเกมการแข่งขัน ดังนั้นเราอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้เกิดขึ้นอีกก็เป็นได้ แต่อย่างที่ผมบอก ผมจะไม่ตั้งเป้าหมายเพื่อกดดันนักเตะและทีม แต่เราจะโฟกัสไปที่ในทุกๆเกมถัดไป และทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น: